วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 16 วันพุธ ที่ 25 เมษายน 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 16 
วันพุธ ที่ 25 เมษายน 2561
  • คำคมผู้บริหาร
  • แจกรางวัลเด็กดี
  • นำเสนอโครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย
คำคมผู้บริหาร
นรากุล ธรรมชาติ

พรประเสริฐ กลับพดุง



ธารารัตน์ โพธิ์ประสาท


โครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย
หลักการและเหตุผล
ในศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิต ทำให้บุคคลในท้องถิ่นรวมถึงเด็กปฐมวัยมีพฤติกรรมในการใช้เทคโนโลยีมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เด็กขาดทักษะการใช้ชีวิตและขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ผู้คนหลงลืมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และโรงเรียนในพื้นที่มีจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราจึงจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้าขึ้นเพื่อเป็นสถานศึกษาที่รองรับจำนวนนักเรียนในพื้นที่ให้เพียงพอกับความต้องการและจัดทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง บูรณาการการสอน 6 กิจกรรมหลัก ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เพื่อพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม ให้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม

วัตถุประสงค์
1.เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ และสถานศึกษาของคนในชุมชน
2.เพื่อพัฒนาเด็กให้เป็นพลเมืองดี
3.เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานในการใช้ชีวิต 

ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
1.ข้อมูลทั่วไป
ชื่อสถานศึกษา  โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า
ตั้งอยู่เลขที่ 100 /221 หมู่บ้านลานทอง ซอย 10 ถนน ติวานนท์   ตำบล บางพูด  อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 10310 โทรศัพท์ 02 - 3456789
โทรสาร 02 - 3456789
E-mail moonschool@gmail.com website moonschool.co.th
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนที่โรงเรียน



อาณาเขต ทิศเหนือ วัดและโบราณสถาน
ทิศตะวันออก โรงพยาบาล
ทิศตะวันตก สวนสาธารณะ
ทิศใต้ วัดและแหล่งชุมชน

สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน


ประวัติโดยย่อ คำขวัญ และวัตถุประสงค์เฉพาะของโรงเรียน
     โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 100/221 หมู่บ้านลานทอง ซอย 10 ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 บนที่ดินของนางสาวนรากุล ธรรมชาติ มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ 3 งาน มีโครงการที่จะเปิดทำการสอนในระดับชั้นอนุบาล จำนวน 4 ห้องเรียน คือ อนุบาล 1 อนุบาล 2 และ อนุบาล 3   โดยเปิดทำการสอนในปีการศึกษา 2555 รับสมัครนักเรียนชั้นอนุบาล 1 คือเด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป 

โรงเรียนได้ดำเนินการก่อสร้างอาคาร จำนวน 2 หลัง คือ
1.อาคารหลังแรก เป็นอาคารชั้นเดียว มีห้องเรียน 4 ห้อง ประกอบด้วย ห้องธุรการ ชั้น 1 อนุบาล 2 และ อนุบาล 3 
2.อาคารหลังที่สอง โรงอาหาร 
3.สระว่ายน้ำ
4.สนามเด็กเล่น
5.สนามหญ้า
6.แปลงผัก

ปรัชญาของโรงเรียน
เป็นคนดี มีคุณธรรม นำความรู้

วิสัยทัศน์
       โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า เป็นโรงเรียนมีคุณภาพระดับสากล บนพื้นฐานวัฒนธรรมไทย มีระเบียบวินัยที่ดีงาม เน้นความรักสามัคคี มีความรู้คู่กับคุณธรรม ตามหลักปรัชญากิจพอเพียง 

คติพจน์
อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา
บัญฑิตย่อมฝึกตน

ปณิธาน
เสริมสร้างรักษาสิ่งดีงาม  พยายามแก้ไขสิ่งบกพร่อง

พันธกิจ
1.สร้างนักเรียนทุกคนให้เป็นเด็กดี มีวินัย มีคุณธรรม 
2.สร้างทักษะพื้นฐาน จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนการสอน
3.ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
4.จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติได้เต็มศักยภาพ

2. ข้อมูลด้านการบริหาร



3.  ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน
เปิดสอนตั้งแต่ระดับ ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3
จำนวนนักเรียนทั้งหมด 60 คน  มีเด็กพิเศษ 2  คน

4. ข้อมูลครูและบุคลากร
การศึกษาปฐมวัย  
สัดส่วนของจำนวนนักเรียน :  ครู 60/6
สัดส่วนของจำนวนนักเรียน  : ห้อง 20/2
มีจำนวนครูครบชั้น ครบชั้น     ⬜  ไม่ครบ   ในระดับ

5. ข้อมูลด้านอาคารสถานที่




ชื่ออาคาร/สถานที่ : อาคารที่ 1 อาคารเรียนและห้องธุรการ



ชื่ออาคาร/สถานที่ : อาคารที่ 2 โรงอาหาร


ชื่ออาคาร/สถานที่ : ห้องสุขา


ชื่ออาคาร/สถานที่ : สระว่ายน้ำ


ชื่ออาคาร/สถานที่ : สนามเด็กเล่น


ชื่ออาคาร/สถานที่ : สนามหญ้า


ชื่ออาคาร/สถานที่ : แปลงผัก

6.ข้อมูลด้านงบประมาณและทรัพยากร



7. สภาพชุมชนโดยรวม

  1. สภาพชุมชนโดยรอบโรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้ามีลักษณะเป็นชุมชนเมืองมีประชากรประมาณ  5,000  คน บริเวณใกล้เคียงโดยรอบโรงเรียนได้แก่  สวนสาธารณะ  โรงพยาบาล  วัด  โบราณสถาน  บ้านเรือนประชาชน  โรงเรียน  และสถานีตำรวจ
  2. อาชีพหลักของชุมชนคือค้าขายเครื่องปั้นดินเผา  และของฝากแก่นักท่องเที่ยว  ผู้ปกครองส่วนใหญ่  จบการศึกษาระดับ   ต่ำกว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ  80  ประกอบอาชีพค้าขาย  ฐานะทางเศรษฐกิจ / รายได้โดยเฉลี่ย  ต่อครอบครัว  ต่อปี  120,000  บาท ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีประเพณีสำคัญได้แก่  ประเพณีตักบาตรพระร้อยแปด  ประเพณีสงกรานต์ชาวไทยมอญ
  3. โอกาสและข้อจำกัดของโรงเรียน
  4. โอกาส

- ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ปกครอง ชุมชน ในการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอน
- โรงเรียนมีประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และหลากหลายมีผลต่อด้านจิตใจของนักเรียน
        - นักเรียนมีความรักความภูมิใจในท้องถิ่น
        - บริเวณรอบ ๆ โรงเรียนมีการขยายตัวของภาคธุรกิจมีผลต่อการระดมทรัพยากรของโรงเรียน
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่หลากหลายเอื้อต่อการจัดการศึกษา
- เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษามีราคาถูกทำให้จัดหาได้ง่าย
ข้อจำกัด
- โรงเรียนอยู่ติดถนนใหญ่ การสัญจรของประชาชนมีจำนวนมาก เกิดปัญหามลภาวะทางเสียง

8. โครงสร้างหลักสูตร
หลักสูตรระดับปฐมวัย
ระดับชั้นอนุบาล 1 – อนุบาล 3 (ช่วงอายุ 3 – 6 ปี)
          สาระการเรียนรู้
ประสบการณ์สำคัญ สาระที่ควรรู้

ด้านร่างกาย เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก
ด้านอารมณ์จิตใจ เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
ด้านสังคม         ธรรมชาติรอบตัวเด็ก
ด้านสติปัญญา       สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก



รวม 5 ชั่วโมง / วัน
1000 ชั่วโมง / ปี


หลักสูตรไฮสโคป (High Scope)
ความเป็นมา
   การเรียนการสอนแบบไฮสโคป เป็นแนวคิดการจัดการศึกษาที่พัฒนามาจากโครงการ เพอรี่ พรีสกูล (Perry Preschool Project)  เมืองยิบซีแลนดิ (Ypsilanti)  รัฐมิชิแกนประเทศสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1960 โดยเดวิด ไวคาร์ด (David Weikart)  และคณะ เป็นโปรแกรมการศึกษาที่มีหลักสูตรและการสอนเน้นการเรียนรู้โดยใช้หลักการสร้างความรู้ (constructive process)  จากการกระทำ  ที่ต้องมีการร่วมกันคิดร่วมกันทำตามแผนที่กำหนดซึ่งต่อมาได้มีผู้นำรูปแบบการศึกษาของไฮสโคปไปใช้อย่างแพร่หลายกับระดับปฐมวัย
แนวคิดพื้นฐาน
   การสอนแบบไฮสโคป  มีพื้นฐานแนวคิดมาจากทฤษฎีของพิอาเจท์ (Piaget’s Theory)  ว่าด้วยพัฒนาทางสติปัญญาที่เน้นการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติที่เด็กสามารถสร้างความรู้ได้เองโดยใช้กระบวนการสร้างสรรค์การเรียนรู้ (Constructive  process  of  learning) เด็กจะเรียนรู้จากการกระทำของตน  การประเมินผลงานอย่างมีแบบแผน  ช่วยให้เด็กเกิดความรู้ขึ้น  ด้วยพื้นฐานความเชื่อว่าเด็กเป็นผู้ใฝ่รู้เด็กสามารถสร้างความรู้ได้จากประสบการณ์ที่มีความหมายซึ่งจากแนวคิดนี้ในการเรียนเด็กสามารถเลือกเรียน เลือกปฏิบัติ  จัดกระทำดำเนินการเรียนรู้และประเมินผลงานของตนเอง การจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคป เน้นการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติตามความสนใจของเด็ก ตามศูนย์การเรียนรู้จะมีวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และพัฒนาการตามวัย จัดไว้อย่างเป็นหมวดหมู่  เด็กจะได้รับการกระตุ้นจากครูให้คิดนำอุปกรณ์ที่จัดไว้มาจัดกระทำหรือเล่นด้วยการวางแผนการทำงาน แล้วดำเนินตามแผนไว้ตามลำดับพร้อมแก้ปัญหาและทบทวนงานที่ทำด้วยการทำงานร่วมกันกับเพื่อนเป็นกลุ่มเล็กๆ  โดยมีครูคอยให้กำลังใจ ถามคำถาม  สนับสนุน  ให้คำแนะนำและเพิ่มเติมสิ่งที่เด็กต้องเรียนรู้  ตามแผนที่กำหนด  จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน  การสนับสนุนให้เด็กมีความรู้ด้วยการลงมือกระทำด้วยตนเองตามแนวคิดของการจัดการศึกษาแบบไฮ/สโคป  มาจากความเชื่อพื้นฐานดังนี้
1. เด็กสามารถสร้างความรู้ได้จาก  การมีส่วนร่วมกระทำกับบุคคล  วัสดุอุปกรณ์  เหตุการณ์  และความคิดเนื่องจากเป็นกระบวนการจูงใจภายใน
2.ในขณะที่เด็กกำลังเรียงลำดับความคิดความสามารถในแต่ละขั้นขณะปฏิบัติ  ผู้ใหญ่จะเป็นผู้มีส่วนช่วยสนับสนุนพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา
3.การสนับสนุนของผู้ใหญ่อย่างสม่ำเสมอ  การยอมรับการเลือก  การคิด  และการกระทำของเด็กเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเด็กสร้างให้เด็ก  สร้างให้เด็กมีความมั่นใจตนเอง  มีความรู้สึกรับผิดชอบ  และรู้จักความควบคุมตนเอง 
4.การสังเกตความสนใจและความตั้งใจของเด็กอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการเข้าใจระดับพัฒนาการของเด็กการวางแผนและการดำเนินปฏิสัมพันธ์กับเด็กได้อย่างเหมาะสม

หลักการสอน
   การเรียนการสอนแบบไฮสโคป เน้นการเรียนรู้แบบลงมือกระทำผ่านมุมเล่นที่หลากหลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก และการแก้ปัญหาอย่างกระตือรือร้น เป็นการสร้างองค์ความรู้จากการที่เด็กให้ลงมือจัดกระทำกับอุปกรณ์หรือสิ่งแวดล้อมนี้เป็นประสบการณ์ตรงโดยใช้หลักปฏิบัติ 3  ประการ  คือ
        1. การวางแผน (plan)  เป็นการกำหนดแนวทางการปฏิบัติหรือดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย หรือสิ่งที่สนใจด้วยการสนทนาร่วมกันระหว่างครูกับเด็ก  และเด็กกับเด็ก  ว่าจะทำอะไร  อย่างไร  การวางแผนกิจกรรมมีเด็กอาจแสดงด้วยภาพหรือสัญลักษณ์ประจำตัวเด็ก หรือบอกให้ครูบันทึกเป็นกระบวนการที่เด็กมีโอกาสเลือกและตัดสินใจ 
        2. การปฏิบัติ (Do) คือการลงมือทำกิจกรรมตามแผนที่วางไว้ เป็นส่วนที่เด็กได้ร่วมกันคิด แก้ปัญหา ตัดสินใจ และทำงานด้วยตนเอง หรือร่วมกับเพื่อนอย่างอิสระตามเวลาที่กำหนดโดยมีครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในจังหวะที่เหมาะสม เป็นส่วนที่เด็กได้มีการพัฒนาการพูดและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง
       3. การทบทวน (Review) เป็นช่วงที่ได้งานตามจุดประสงค์ ช่วงนี้จะมีการเล่าถึงผลงานที่เด็กทำเพื่อทบทวนว่าตนเอง (เด็ก) สามารถปฏิบัติตามแผนที่วางไว้หรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงแผนอย่างไร จุดประสงค์ของการทบทวนคือ เพื่อสะท้อนสิ่งที่เด็กได้ทำ ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างแผนกับการปฏิบัติและผลงานที่ทำ รวมถึงเล่าประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้ทำ

9. แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้
1)วัดคูขุด
2)สวนสาธารณะ
3)โรงพยาบาล
4)สถานีตำรวจ

ปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สถานศึกษาเชิญมาให้ความรู้แก่ครู นักเรียน ในปีการศึกษาที่รายงาน
- ชื่อ-สกุล นายสำราญ พงศ์วันทอง ให้ความรู้เรื่องขนมไทย สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จำนวน 2 ครั้ง / ปี 
- ชื่อ-สกุล นายสมดุล   จุลจัตุรัส ให้ความรู้เรื่องเครื่องปั้นดินเผา สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จำนวน 2 ครั้ง / ปี

10. ผลงานดีเด่นในรอบปีที่ผ่านมา
- โรงเรียนแกนนำพัฒนาชีวิต
- รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดส้วมสุขสันต์
- โรงเรียนแกนนำโรงเรียนดีศรีจังหวัด
- โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร
- รางวัลโรงเรียนในฝัน
- เหรียญทองชนะเลิศการแข่งขันศิลปะหัตกรรมดนตรีนาฏศิลป์
- เหรียญทองชนะเลิศการแข่งขัดวาดภาพระบายสี
- เหรียญทองการเล่านิทานการแสดงประกอบสื่อ
- เหรียญทองการปั้นดินน้ำมัน(ปฐมวัย)
- เหรียญทองการสร้างภาพด้วยการ ฉีก ตัด ปะ(ปฐมวัย)
- เหรียญทองการประกวดมารยาทไทย




โมเดลโรงเรียน

การประยุกต์
  สามารถจำลองการบริหารสถานศึกษาได้อย่างคลอบคลุมและนำวิธีการไปใช้ในการเปิดสถานศึกษาได้

การประเมิน
ตนเอง : เข้าใจขั้นตอนการจัดตั้งสถานศึกษา
เพื่อน : ร่วมมือกันทำงานและนำเสนองานเป็นอย่างดี
อาจารย์ : แนะนำวิธีการที่ถูกต้องและให้ปรับปรุงแก้ไขชิ้นงานให้ถูกต้อง

บันทึกการเรียนครั้งที่ 15 วันพุธ ที่ 18 เมษายน 2561

บันทึกการเรียนครั้งที่ 15 
วันพุธ ที่ 18 เมษายน 2561
  • คำคมผู้บริหาร

สุรีย์พร สมจิตร

พัดชา สังข์ทอง

ธิดารัตน์ สวัยษร

การประยุกต์
   สามารถนำไปปรับใช่้ในชีวิตประจำวันหรือกับการเป็นผู้บริหารได้

การประเมิน
ตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา
เพื่อน : ตั้งใจเรียน
อาจารย์ : สรุปงานต่างๆ ให้ฟัง